วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ปราสาทพะโค
ปราสาทหินบ้านพะโค หรือ ปราสาทปะโค ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านกระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครนครราชสีมา ถิ่นน้าชาติ บ้านคุณสุวัจน์และเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ในปลายปีไงครับ
.
หากเดินทางจากตัวจังหวัด ตามถนนหลวงหมายเลข 224 ผ่านแหล่งเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอันเลื่องชื่อของเมืองโคราช ประมาณ 30 กิโลเมตรก็จะมาถึงตัวอำเภอโชคชัย เดินทางต่อจากตัวเมืองโชคชัยไปทางอำเภอครบุรี ด้วยทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2071อีกประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร ก็จะพบปราสาทองค์เล็ก ๆ ทางด้านขวามือ
.
ซึ่งหากเดินทางโดยไม่ได้เจาะจงสนใจมากนัก ก็จะผ่านเลย "ปราสาทพะโค" ไปได้โดยง่าย
.
.
ด้วยเพราะปราสาทหินพะโคเป็นปราสาท"ขนาดเล็ก" ไม่ได้ตั้งอยู่ในเส้นทางโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมือง
โคราช เช่นเดียวกับ ปราสาทหินใหญ่ ๆ อย่างปราสาทหินพิมาย ปราสาทพนมวัน ปราสาทเมืองแขก เมืองเสมา ฯลฯ จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหลงทางแวะมาชมกันมากนัก เรียกได้ว่าถ้าจะมาก็ต้องตั้งใจมากันจริง ๆ แล้วค่อยตัดเดินทางไปตามเส้นทางลัดสาย สูงเนิน - โชคชัย เดินทางลัดไปจังหวัดบุรีรัมย์
.
เฉพาะที่อำเภอปักธงชัย ใกล้เคียงกับปราสาทพะโคก็มีปราสาทขนาดเล็กที่สร้างเพื่อเป็นปราสาท "สรุก" หรือเทวาลัยประจำชุมชนโบราณ ถึง 8 หลัง เช่น ปราสาทบ้านนาแค ปราสาทบึงคำ ปราสาทสระหิน ปราสาทบ้านปรางค์ ฯ ในอำเภอโชคชัยก็มีอยู่ 3 ปราสาทและมีปราสาทหินน้อยใหญ่รวม 34 แห่ง ทั่วเขตจังหวัดนครราชสีมา บางแห่งก็บูรณะแล้ว บางแห่งก็ยังมีสภาพรกร้างเดิม ๆ ดิบอยู่
.
ปราสาทหินตามชุมชนโบราณขนาดเล็กทั้งหลายนี้ ส่วนใหญ่จะมีสภาพพังทลายไม่สมบูรณ์ เพราะต้องผจญกาลเวลามายาวนานกว่าพันปีบ้าง เกือบพันปีบ้าง ปราสาทหินจึงมี "ความไม่สมบูรณ์" ที่หลากหลาย ทั้งแบบที่ยังสร้างไม่เสร็จก็หยุดสร้าง เพิ่งเริ่มสร้างยังไม่ทันแกะสลักลายก็หยุดสร้าง หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหว บ้างก็มีต้นไม้ ป่ารกขึ้นปกคลุมแทนเพราะไม่มีชุมชนมาใช้ประโยชน์หรือมาคอยดูแลรักษา
.
บางปราสาท ฐานล่างต้องรับทั้งน้ำฝน ความชื้นและความร้อน ก็ล้วนแต่จะช่วยทำให้หินทรายเกิดปฏิกิริยาพองและกรอบ จึงรับน้ำหนักด้านบนที่กดทับลงมาไม่ไหวก็แตกกร่อนพาให้ด้านบนพังทลายลงมา
.
บางปราสาทก็อาจถูกผู้คนในยุคหลังเข้ามารื้อทำลาย ทั้งเพื่อนำหินไปสร้างปราสาทหรือศาสนสถานตามคติความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการค้นหาทรัพย์สมบัติและโลหะที่มีค่าไปใช้ประโยชน์
.
ปราสาทหินและโบราณสถานหลายแห่งล้วนเสื่อมสภาพและพังทลายตามเงื่อนไขที่กล่าวมาทั้งสิ้น บางปราสาทหินก็อาจจะเจอสองเด้งทั้งภัยธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์
.
ผมโชคดีได้เดินทางไปทำงานสำรวจปราสาทในอีสานในโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเมื่อประมาณกว่า 15 ปีที่แล้ว จึงได้มาพบกับปราสาทปราสาทพะโคที่ซ่อนเร้นเป็นโคกป่าอยู่ริมทาง ในช่วงก่อนที่จะมีการบูรณะในปี 2535 ครับ
.
.
คำว่า "พะโค" มาจากคำว่า "ปะโค" ซึ่งเป็นชื่อเมืองเก่าแก่ในนิทานภาคอีสาน เรื่องหอนางอุษาหรืออุสา-บารส หรืออาจจะมาจากคำเขมรว่า "เปรียะโค" แปลว่า "พระโค(วัว)" ชาวบ้านในพื้นที่ปัจจุบันน่าจะเคลื่อนย้ายมาจากทางอีสานเหนือเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว จึงนำชื่อเรียกใหม่สวมทับปราสาทในภายหลังครับ
.
สภาพก่อนการบูรณะนั้น ปราสาทมีสภาพเป็นโคกเนินดินทับถมขนาดใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นรกรุงรัง มีกองหิน อิฐและเศษรูปสลักกระจัดกระจายอยู่บนเนิน มีร่องรอยการขุดหาของเก่าหลายหลุม บางโรงเรียนโดยรอบปราสาทได้มานำทับหลังและรูปสลักหินไปเก็บไว้ บางทีก็เป็นบ้านคนมาเก็บไป บางทีก็เป็นวัดมาเก็บ มีการลักลอบนำลายแกะสลักหินที่แตกหักออกจากปราสาทไปบ่อยครั้ง
.
ปราสาทพะโคในสายตาของผมในเวลานั้นอยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ตามความเห็นและข้อสันนิษฐานของผม ปราสาทหินองค์นี้ เป็นปราสาทที่สวยงามและอลังการที่สุดในบรรดาปราสาททางทิศใต้ของเขตเมืองโคราช อายุของปราสาทอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 15 -16ฝีมือช่างแกะสลักระดับช่างหลวงคลาสลิค แบบแผนศิลปะเทียบเคียงได้กับศิลปะเกลียงหรือคลังในประเทศกัมพูชา
.
.
.
ผมอยากเรียกว่าเป็นศิลปะแบบ "กระโทกโชคชัย" มากกว่า เพราะรายละเอียดของการแกะสลักช่วงสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นจริง ๆ ถึงจะจิ๋วแต่ก็แจ๋วสุด ๆ
.
ลักษณะของปราสาทเป็นปรางค์เดี่ยว หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีปรางค์น้อยที่หลายคนเรียกว่าบรรณาลัยจำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ทางด้านหน้าแนวเหนือและใต้ แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นบรรณาลัย (ห้องสมุดหรือห้องพิธีพราหมณ์) ตามเขา เพราะมีหลักฐานของยอดปราสาทถึงสามยอด ที่แกะสลักได้อ่อนช้อยงดงามกว่าที่ไหน ๆ วางกองทนโท่อยู่ ก็แสดงว่าเป็นปราสาทสามหลัง สามใบเถาแน่ ๆ ที่ยอดปราสาทยังคงอยู่ก็เพราะน้ำหนักหินทรายสลักก็ไม่ใช่น้อย ๆ จึงไม่มีใครสนใจจะขนไปเป็นที่ระลึก
.
.
ปรางค์ประธานและปรางค์น้อยทั้งสองอยู่ในสภาพพังทลายลงมาทั้งหมดครับ ปรางค์น้อยด้านทิศใต้ถูกรื้อหายไปทั้งฐานราก ? นี่คือปมปริศนาที่น่าฉงนของปราสาทงามแห่งเมืองกระโทกโชคชัย หินทรายหรืออิฐที่เป็นโครงสร้างของตัวเรือนปราสาทประธานอันตธานหายไปทั้งหมด มันหายไปไหน !!!
.
.
หลายคนหลายตำราก็พยายามอธิบายว่าวัสดุที่ใช้เป็นเรือนธาตุนั้นอาจจะเป็น อิฐดินเผา จึงพังทลายกลายไปดินธุลีไปตามเวลา
.
ผมก็ให้ขำในข้อสันนิษฐานที่แตกต่างกันไป ปราสาทอิฐมากมายในยุค 100 – 500 ปีก่อนหน้ากลับล้วนยังอยู่รอดให้เห็นซากได้มากมาย ประมาณเศษอิฐที่ยังหลงเหลือกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ ก็เห็นจะไม่มากพอที่จะใช้ก่อเป็นเรือนปราสาทได้สักหลัง
.
แต่นี่เรือนปราสาทหายไปทั้งสามหลังเลยครับ !!!
.
.
หินทรายหรืออิฐที่ใช้เป็นเรือนธาตุของปราสาทหายไป ปราสาทหลังเล็กหลังหนึ่งถูกรื้อจนไม่เหลือแม้กระทั่งฐาน ปราสาทหลังเล็กอีกหลังหนึ่งเหลือเพียงระดับหน้าบันชั้นแรก ผนังก็ยังหาย เหลือแต่ประตูผุกร่อน
.
ปราสาทพะโค ถูกรื้อทำลายอย่างตั้งใจหรือ ? รูปเคารพจำนวนมากหายไปไหน ฐานรูปศิวลึงแตกปิ่นที่ขอบ (เพราะเหตุมีของหนักหล่นมาจากด้านบนมากระแทก) ก็ยังตั้งอยู่ในปราสาทประธาน ชิ้นส่วนประดับปราสาทที่เรียกว่า "เครื่องบน" หรือ "กลีบขนุนรูปปราสาทจำลอง" จำนวนมาก ร่วงหล่นลงมากระแทกหินที่ฐานแตกหัก สภาพเป็นชิ้นสมบูรณ์ก็แทบหาไม่ได้เลย กลีบขนุนรูป "นักบวชและรูปฤๅษี" ก็มีร่องรอยถูกทุบทำลาย แตกเป็นชิ้น ๆ เช่นกัน
.
ปราสาทพะโค ที่สวยงามไปทำอะไรใครเขา ทำไมจึงถูกรื้อทำลายได้อย่างรุนแรงเช่นนี้ !!!
.
.
ผมมุ่งเป้าแก้ปมปริศนาไปที่ประเด็นเรื่องประติมานวิทยาของเรื่องเล่าเทพเจ้าในรูปสลักที่อาจจะสะท้อนคติความเชื่อทางศาสนา อันเป็นที่มาของการสร้างปราสาทพะโคและชุมชนโบราณผู้สร้างปราสาทหลังนี้
.
รูปสลักที่นี่จำนวนมาก สลักในเรื่องราวของพระวิษณุในลัทธิไวษณพนิกายเป็นส่วนใหญ่ ทั้งพระนารายณ์ทรงครุฑก็มีแทบทุกหน้าบัน รูปนารายณ์ตรีวิกรม อภิเษกพระศรีหรือพระลักษมี พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระกฤษณะประลองกำลัง แต่ไม่เห็นรูปของพระศิวะเลย
.
.
.
ในขณะที่สังคมชุมชนเขมรโบราณในยุคสมัยเดียวกันนั้นให้ความสำคัญกับลัทธิไศวะนิกายหรือลัทธิการบูชาพระศิวะหลัก เรียกว่าชุมชนที่นี่คงเป็นชนกลุ่มน้อยในยุคนั้น
.
หรือจะเป็นเพราะเหตุความขัดแย้งทางคติความเชื่อ ถึงขั้นลงไม้ลงมือทำลายเทวสถานกัน ถึงจะมีฐานของเคารพอยู่ในปรางค์ประธาน แต่ก็ไม่เคยพบศิวลึงค์ที่นี่เลยสักชิ้น ก็เป็นข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ หรือชุมชนโบราณอาจเกิดโรคระบาดขั้นวิกฤต จึงทิ้งร้างศาสนสถานแห่งเทพเจ้าไป ก็เป็นไปได้อีก
.
.
ปราสาทพะโค "อาจจะ" ถูกทำลายโดยผู้คนชุมชนใหม่ในยุคพุทธศตวรรษที่ 17 ที่ย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งอาจจะทำลายโดยตั้งใจเพื่อรื้อตัวปราสาทให้ถล่มลงเพราะเป็นปราสาทที่ขัดแย้งความเชื่อในคติบูชาเทพเจ้าของตน หรือ อาจจะเข้ามาพบปราสาทร้างและต้องการนำหินไปใช้เพื่อสร้างปราสาท "สรุก" ศูนย์กลางท้องถิ่นของตนใหม่ จึงทำการรื้อถอนปราสาทด้วยวิธีการการล้อมเชือกโดยรอบแล้วใช้ช้างลากหรือแรงงานคนชักคะเย่อ จนปราสาทถล่มล้มลงมาทั้งหลัง
.
.
หลังจากลำเลียงหินทรายก้อนที่เป็นโครงสร้างปราสาทไปแล้ว ก็จะทิ้งหินทรายที่มีรูปแกะสลักเดิมไว้ เพราะไม่ต้องการนำไปใช้ เราจึงยังพบทั้งเสากรอบประตูสลักลวดลายสวยงาม กรอบประตูหน้าต่าง ทับหลัง หน้าบันและยอดปราสาทครบทั้งสามหลังทิ้งไว้ รวมกันกับกองปราสาทจำลอง หินสลักจำนวนมากอยู่ในสภาพแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมีร่องรอยหลักฐานของการกระทบกระแทกหินกันอย่างรุนแรงปรากฏอยู่มากมาย
.
หินแตกหักจำนวนมากของปราสาทพะโค สวยงามเพราะมีลวดลายสลักติดอยู่ จึงกลายมาเป็นของที่ระลึก (Souvenir) ชั้นดี ขนาดพอเหมาะสำหรับผู้คนที่แวะมาท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนในช่วงปัจจุบันต่างก็มาหยิบฉวยออกไปมากมายครับ
.
ผมได้ถ่ายรูปตอนขุดค้นและขุดแต่งปราสาทพะโคไว้ ซึ่งในช่วงนั้นก็กำลังขุดพบ "แผ่นทองคำศิลาฤกษ์" บริเวณฐานศิลาแลงของปราสาทประธานทางฝั่งทิศเหนือพอดี แผ่นทองคำเป็นรูปบัวแปดกลีบวางในช่องหินเล็ก ๆ หลายช่อง จำได้ว่าพบแผ่นใหญ่ 3 แผ่น และแผ่นเล็ก ๆ อีกหลายแผ่น ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมายครับ
.
.
หน้าบันของปราสาทพะโคมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างแปลกกว่าปราสาทหินเขมรในประเทศไทยองค์อื่น ๆ หน้าบันสลักเข้าไปในตัวเรือนปราสาท โค้งลงมาเข้าหาทับหลังและกรอบประตูแทนที่จะแยกออกมาเป็นแผ่นหน้าบันต่างหาก ซึ่งลักษณะนี้คล้ายกับที่ปรางค์น้อย ในปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองแขกและปราสาทบ้านพลวง ซึ่งล้วนอยู่ในสมัยต้นศิลปะแบบบาปวนแต่ที่ปราสาทพะโคนี้จะดูเก่าและแปลกตากว่ามาก
.
.
.
ดูกี่ครั้งกี่หนผมก็เห็นว่า ลวดลายแกะสลักของปราสาทพะโคนี้ แปลกและงดงามมากจริง ๆ ดูจากแค่เฉพาะลายแกะสลักที่ประตูหลอกของปรางค์น้อยสิครับ หากปราสาทสมบูรณ์แบบ จะเป็นปราสาทหินที่งดงามเทียบได้กับปราสาทบันทายศรีในเมืองเสียมเรียบของกัมพูชาเลยทีเดียว
.
.
นอกจากนี้ยังขุดพบรูปสลักทวารบาลราชสีห์หน้าปราสาทจำนวนฐานครบเฝ้าทั้งสามปราสาท แต่ตัวสิงห์เหลือให้เห็นอยู่เพียงสามตัวที่หายไปคงกำลังเฝ้าประดับบ้านใครอยู่ก็ไม่รู้ได้
.
.
หัวนาคปลายหน้าบันที่นี่ก็แปลกตัวยืดยาวสวมมงกุฎก็ยาวแยกกันเป็นของใครของมัน มีสิงห์ หน้ากาล และลิงมาคายนาค 5 เศียรแทนที่จะเป็นมังกรคายนาคเช่นปราสาทองค์อื่น ๆ เขานิยมสลักกัน
.
หน้าบันและรูปสลักส่วนใหญ่ของปราสาท ได้ถูกนำไปเก็บและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมายครับ ส่วนที่แตกหักก็ยังกองทิ้งไว้ในเขตปราสาท แต่ถ้าผมจำไม่ผิด หน้าบันจำนวนหนึ่งได้ถูกนำไปไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ ตึกหลังเล็ก ๆ ในวัดสุทธจินดา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
.
พิพิธภัณฑ์หลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก เก็บรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นงานสะสมของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส)อดีตพระเถระสำคัญของภาคอีสาน ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดาในอดีตครับ
.
.
กรมศิลปากรจึงได้สร้างอาคารชั้นเดียวทรงไทยหลังหนึ่ง ภายในพื้นที่ของวัดสุทธจินดา เพื่อเก็บรักษางานสะสมของพระท่าน จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขึ้น เมื่อปี 2497
.
ปราสาทพะโค เป็นปราสาทที่มีความงดงามโดดเด่น มีลวดลายแกะสลักที่วิจิตรบรรจง แต่ก็ซ่อนเร้น ยากที่จะเดินทางไปเยี่ยมเยือน แต่หากมีโอกาสสักครั้ง ก็ไม่ควรพลาดที่จะเจาะจงเข้าไปชมปราสาทองค์นี้ที่อำเภอโชคชัย และควรแวะไปดูชิ้นส่วนงานแกะสลักของปราสาทที่กระจัดกระจายไปอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ในตัวเมืองโคราชและที่เมืองพิมาย
.
บางทีท่านอาจจะพบกับหลักฐาน ทั้งวิญญาณและสายลม ได้ช่วยกันไขปมปริศนาสำคัญว่า เหตุใดปราสาทที่สวยงามหลังนี้จึงถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ถึงเหลือแต่ชิ้นส่วนแตกหักแต่ก็ช่างงามอลังการหนักหนา
.
.
ไม่แน่นัก ท่านอาจจะเป็นผู้เฉลยเงื่อนงำปริศนานี้ได้เอง เมื่อได้ไปเยือนและใช้มือลูบไล้สัมผัสเบา ๆ กับร่องสลักหินทรายของ "ปราสาทพะโค" ท่ามกลางกลิ่นอายของความรู้สึกโดดเดี่ยวและเงียบเหงา ที่บ้านกระโทก เมืองโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
.
หากไปพบอะไรใหม่ ก็อย่าลืมมาบอก มาอวดกันบ้างนะครับ !!!
.
ที่มา : www.oknation.net โดย ศุภศรุต
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557
Drive for Education สำหรับภาคการศึกษา
GOOGLE เปิดตัว Drive for Education สำหรับภาคการศึกษา เนื้อที่ไม่จำกัด ราคาไม่คิดเงิน!
กูเกิลเปิดตัว Google Drive for Work ให้พื้นที่ไม่จำกัดในราคา 10 ดอลลาร์ต่อเดือนไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ Google Drive for Education ที่ให้พื้นที่ไม่จำกัดเหมือนกัน แต่ให้หน่วยงานด้านการศึกษาใช้งานได้ฟรี
Google Drive for Education มีฟีเจอร์เทียบเท่า Google Drive for Work ทั้งในแง่การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบ (audit) ระบบ และการทดสอบมาตรฐาน (compliance) ต่างๆ สำหรับการใช้งานในองค์กร นอกจากนี้มันยังเชื่อมต่อกับระบบจัดการห้องเรียน Google Classroom ได้ด้วย
ผู้ใช้ Google Apps for Education ทุกรายจะใช้งาน Google Drive for Education ได้ในเร็วๆ นี้
ที่มา : http://www.nsru.ac.th/
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557
PCI Simple Communication Controller มันคือไดร์เวอร์อะไร
ปัญหา PCI Simple Communication Controller ที่เกิดนี้จะเกิดเฉพาะ เครื่องที่ใช้
INTEL CPU ตระกูล i (i3,i5,i7) หรือตระกูลใหม่ๆ จริง ๆ แล้วมันคือ driver Intel Management Engine Interface (Intel(R) Management Engine Interface Driver)
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ครับ
ที่มา: Technology News
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557
ส่วนประกอบหลักของ Visual Studio
สวัสดีครับเจอกันอีกครั้งน่ะครับ กับครั้งที่แล้ว Development Kids ได้นำเสนอ Visual Basic Tutorial ตอนที่ 1 HelloWord กลับมาครั้งนี้ Development Kids ขอนำเสนอ ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual Studio ที่ผมใช้งานหลักเลยน่ะครับ จะแนะพอคร่าวพอเป็นแนวทางไปก่อน ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual Studio ก็จะประกอบด้วย Design View และ Source Code View รายละเอียดผมไม่ขอพูดอะไรมากน่ะครับตามรูปข้างล่างเลย รูปอาจเล็กไปหน่อย แต่สามารถคลิกขยายได้ครับ ขอบคุณสำหรับการเข้าชม ขอบคุณครับ
1. ส่วนของ Design View
2.ส่วนของ Source Code View
1. ส่วนของ Design View
2.ส่วนของ Source Code View
Visual Basic Tutorial ตอนที่ 1 HelloWord
สวัสดีครับพี่น้อง วันนี้ Development Kids ขอนำเสอ Visual Basic Tutorial ตอนที่ 1 HelloWord ซึ่งในตัวอย่างที่ผมจะสอนต่อไปนี้ ผมได้พัฒนาบน Visual Studio 2005 น่ะครับ เนื่องด้วย Version นี้ผมรู้สึกว่ามันเบาๆดีครับส่วนใครที่ใช้ Version อื่น เช่น 2008 up ก้อไม่เป็นไหร่น่ะครับ ใช้ได้เหมือนกัน ส่วน VB6 นั้นก็ทำได้เหมือนกันน่ะครับ
เอาล่ะครับผมว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นท่านต้องติดตั้ง Visual Basic ก่อนเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็เปิดโปรแกรมขึ้นมาตามรูปข้างล่างนี้เลยครับ
จบ... แล้วครับขั้นตอนการทำ Visual Basic Tutorial ตอนที่ 1 HelloWord ท่านใดไม่เข้าใจตรงจุดไหนคอมเม้นมาตามข้างล่างนี้เลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมขอบพระคุณครับ
เอาล่ะครับผมว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นท่านต้องติดตั้ง Visual Basic ก่อนเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็เปิดโปรแกรมขึ้นมาตามรูปข้างล่างนี้เลยครับ
เมื่อเปิดโปรแกรมได้แล้วก็ไปที่ File + New Project จะได้ตามรูปข้างล่างนี้
จากนั้นให้เราตั้งชื่อโปรเจค ขึ้นมาน่ะครับ ตัวอย่างตั้งชื่อว่า HelloWord
เมื่อเราตั้งชื่อเสร็จแล้วแล้วคลิก OK เรียบร้อยแล้วก็จะมีฟอร์มให้เรา
จากนั้นก็ให้เราคลิกตรงที่ Tools Bar เลือก Button จากนั้นก็คลิกเมาส์ค้างที่ฟอร์มลากเมาส์แล้วปล่อย
เราก็จะได้ปุ่ม Button ตามรูปข้างล่างนี้ครับ จากนั้นให้เรา Double Click ที่ Button ที่เราสร้าง
จากนั้นก็จะได้ ส่วนของ Code ขึ้นมาให้เรา พิมพ์ตามรูปเลยครับ
MsgBox("HelloWord") 'อันนี้ใช้ได้ทั้งบน VB6 และ .Net ด้วย
หรือ
MessageBox.Show("HellWord") 'อันนี้ใช้บน .Net ได้อย่างเดียว
จากนั้นก็ทำตามที่ลูกสอนชี้น่ะครับเพื่อ Run ทดสอบโปรแกรม
ก็จะได้ตามรูปข้างล่างนี้เลยครับ
จบ... แล้วครับขั้นตอนการทำ Visual Basic Tutorial ตอนที่ 1 HelloWord ท่านใดไม่เข้าใจตรงจุดไหนคอมเม้นมาตามข้างล่างนี้เลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมขอบพระคุณครับ
วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ติดตั้ง Pfsense Step Geek
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเขียนเรื่อง จะขอแนะนำการติดตั้ง pfSense ครับ ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนน่ะครับว่า pfSense คืออะไร "PFSENSE คือระบบFireWall สำเร็จรูปชนิดหนึ่งก็ว่าได้แต่ Pfsense นั้นมีระบบที่อยากแนะนำคือ Load Balance คือการนำ Internet มากกว่า 2 เส้น มาใช้งานร่วมกัน คือ Internet แต่ระเส้นจะทำหน้าที่ของมันเช่น มีการใช้ Internet 2 line มีความเร็ว Line ที่1 15Mbps และ Line ที่2 10Mbps Pfsense จะนำInternet 2 เส้นมารวมกัน เป็น 25Mbps เป็นต้น PFsense จะทำการกระจายโหลด แต่ระ Line ให้เท่ากันเหมือนกับเรามีท่อส่งน้ำ 2 ท่อจาก 1 ท่อนั้นเอง จึงทำให้เราสามารถ รับ ส่งข้อมูล ต่างๆได้เร็วขึ้น แถมยังมีการ ตรวจสอบการทำงานของInternet ว่าLine ไหนใช้งานไม่ได้ หากเกิดInternet ล่ม ไป 1 Line Pfsense ก็จะทำการสลับ ไปยังLine ที่สามารถใช้งานได้ปกติ หรือ ดีที่สุดให้แทน ถึง Pfsense จะเป็นระบบ Firewall ที่เก่า แต่คุณภาพไม่ได้เก่าตามตัวเลยทีเดียว
โดย PFsense ตั่งแต่ที่เราทดสอบมา ยังไม่เคยเจอPfsense ล่ม เลย ยกเว้น กรณี Hardware เสียหรือไหม้เป็นส่วนมาก เรียกว่า 365*365 วันกันเลยก็ว่าได้.." และมีหลากหลาย feature มากมายครับ เราสามารถติดตั้ง package เพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น ทำ hotspot ,billing , proxy,log ,vpn ,captive portal,radius, .. pfSense พัฒนามาจาก BSD สำหรับบางท่านที่ไม่คุ้นเคยกับ BSD คงคิดว่าคงจะยากที่จะทำความเข้าใจกับ BSD ถ้าคุณคิดอย่างนั้นผมขอให้คุณโยนความคิดนั้นทิ้งไปซ่ะ เพราะเราแทบไม่ต้องใช้ command กับมันเลยยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆ เพราะเราสามารถเข้าไปแก้ไขได้ทั้งหมดผ่านทาง web browser เพียงแค่เราคลิกๆแค่นั้นครับ เอาล่ะครับแค่นี้แหละคร่าวๆ วันนี้ผมขอสอน อย่าว่าสอนดีกว่าขอแนะนำดีกว่า เน๊าะ
วันนี้ผมจะขอแนะนำการติดตั้ง Pfsense 2.1.4 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดในตลอดนี้น่ะครับ เอาล่ะเรามามากันเลยดูตามวิดีโอตามด้านล่างเลยน่ะครับ
หากดูไม่เข้าก็คอมเม้นมาได้เลยน่ะครับ ยินดีตอบคำถามทุกคำถามครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)