วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขอบริจาคหนังสือ

ครูแบบนี้ยังมีอยู่ (โปรดช่วยกันส่งต่อด้วยครับ)

สวัสดี ครับ
ผม ชื่อ กัมปนาท สุขนิตย์ ครูสอน วิชาชีววิทยา
โรงเรียนชาติตระการวิทยา
จ.พิษณุโลก

ตั้งแต่สอนมา เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ที่ กันดารและห่าง ไกลความเจริญ มากที่สุด
มีนักเรียนประมาณ 1,000 คน
แต่ มีครูแค่ 30 คนเอง .....
อาคารเรียน  -- > ใช้การได้จริง 1 หลัง
ซึ่ง ไม่พอกับจำนวน นักเรียน.....
ปีนี้  สอบติดมหาวิทยาลัย ประมาณ 60  กว่า   คน จากนักเรียน 160 คนครับ ...

แต่เด็กที่ อ.ชาติตระการ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี จึงไม่ค่อยได้เรียนต่อ

ขอรับบริจาค หนังสือเรียน หรือหนังสือสอบเข้าเอนทรานซ์ หรือ หนังสือเสริมบทเรียน(ถ้าได้ชีท อ.อุ๊  อ.เผ่า อ.ต่าง ๆ จะดีมากครับ)


นางอุไรวรรณ ศิวะกุล

กศ.บ. (เกียรตินิยมอันดับ 1) กศ.ม.(เคมี)


อ.อุ๊   ()
          http://www.chem-ou.com/about/magazine



หรือ text book ระดับ ชั้นมัธยมศึกษา หรือ อุปกรณ์การทดลองต่าง ๆ ......ที่ไม่ได้ใช้แล้ว
เอามาให้นัก เรียนที่ โรงเรียนชาตระการวิทยา เพ ราะเด็กที่นี่ไม่ มีหนังสือดี ๆ อ่าน และจะได้สอบเข้า มหาวิทยาลัย มากกว่านี้

(เงินไม่รับครับ เพราะใช้ยากและไม่อยากมีปัญหาภายหลัง)

กรุณาส่ง   โรงเรียนชาติตระการวิทยา
124 หมู่ 4 ต.ป่า แดง อ.ชาติตระการ
จ.พิษณุโลก 65170


ขอบคุณมากครับ .....
สำหรับโอกาสที่นักเรียน
โรงเรียนชาติตระการวิทยาจะได้รับ
กัมปนาท สุขนิตย์


ช่วยส่งต่อกันหน่อย นะ 100 mail ได้ สัก 1 เล่ม ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย : )

Review Windows Server 2012R2

10 ฟีเจอร์เด่นบน Windows Server 2012

image
      
หนึ่งในระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดที่ หลายคนรอคอยว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งมีการเปิดเผยว่ามีการปรับปรุงอินเทอร์เฟซ และคุณสมบัติในการทำงานกว่าร้อยอย่าง โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับระบบเสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชันและการจัดการระบบไอที ด้วย ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ได้สาธิตคุณสมบัติและการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น ใน Windows Server 2012 โดยอ้างอิงถึงคุณลักษณะสำคัญของ Windows Server ที่มีทั้งความยืดหยุ่น, คล่องตัว, และปลอดภัยที่ทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ซึ่ง Windows Server 2012 จะเข้ามาเติมเต็มและรับช่วงต่อจาก Windows Server 2008

       มีการพูดถึงระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จาก ไมโครซอฟท์นี้มากมาย แต่โดยรวมจะมีอยู่ 10 คุณสมบัติหรือ
ฟีเจอร์สำคัญ อาทิ ระบบจัดการข้อมูลซ้ำซ้อน (Data deduplication) สำหรับไฟล์เซิร์ฟเวอร์, การสนับสนุน PowerShell ซึ่งจะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการระบบเสมือนอย่าง Hyper-V ได้ง่ายผ่านคอมมานด์ไลน์ และอื่นๆ น่าสนใจสำหรับ Windows Server 2012 เวอร์ชัน Beta นี้ 

      1. การจัดการเซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่: รองรับทั้งเซิร์ฟเวอร์จริงและเสมือนผ่านทาง Active Directory รวมไปถึงการแสดงข้อมูลในภาพรวมของเซิร์ฟเวอร์ตามบทบาทหน้าที่และคุณลักษณะใน การใช้งานต่างๆ บนแดชบอร์ด พร้อมกับสามารถสร้างแดชบอร์ดส่วนตัวเพื่อจัดการกับเซิร์ฟเวอร์ได้อีกด้วย ภายใต้คอมมานด์ไลน์อย่าง PowerShell และ WMI (Windows Management Interface) และมีการพิจาณาถึง cmdlet ซึ่งเป็นคำสั่งเซลล์เฉพาะทางใหม่ๆกว่า 2,300 คำสั่งอีกด้วย

      2. การจัดการการใช้งานเซิร์ฟเวอร์แบบอิสระ: Windows Server 2012 ได้สืบทอดคุณสมบัตินี้มาจาก Wizard ใน Windows Server 2008 สำหรับการจัดการเซิร์ฟเวอร์ตามบทบาทและการใช้งาน แต่คราวนี้จะเป็นการรวบรวมเอาคุณสมบัติเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถเลือกจัดการเซิร์ฟเวอร์แบบ  Local หรือแบบ Remote รวมทั้งฮาร์ดดิสก์เสมือน โดยสามารถจัดการการใช้งาน แบบอัตโนมัติผ่านทาง cmdlets ของ PowerShell และ API ของWMI หรือแม้แต่การติดตั้งหรือเคลื่อนย้ายเซิร์ฟเวอร์หลัก (Server Core) ก็ทำได้ง่ายขึ้น

       3. การจัดการ IP Address: ต่อไปนี้อาจไม่ต้องใช้สเปรดชีตในการติดตามการจัดสรร IP Address โดย Windows Server 2012 จะมาพร้อมกับระบบการจัดการ IP Address เต็มรูปแบบ โดยสามารถจัดสรร IP Address และติดตามความเคลื่อน ไหวของสถิติ, สถานะของ DNS และ DHCP, รวมทั้งความสามารถในการตรวจสอบเครือข่ายทั้งหมดจากจุดเดียวด้วย

      4. การควบคุมการเข้าถึงแบบไดนามิก: การควบคุมการเข้าถึงแบบไดนามิกจะช่วยให้สามารถกำหนดนโยบายและสิทธิเรียกร้อง ตามการควบคุมการเข้าถึงตามความสำคัญได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องสร้างกฎเพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงสมาชิกของกลุ่มการเงินสามารถเข้า ถึงไฟล์ของแผนกการเงินอย่างเคร่งครัดและจากอุปกรณ์ที่มีการควบคุมดูแลอยู่  และกฎนี้อาจจะมีผลบังคับใช้โดยทั้งหมดใช้  Windows Server 2012 ที่อยู่ในส่วนของไฟล์เซิร์ฟเวอร์

      5. การคลัสเตอร์ Hyper-V ขนาดใหญ่: Windows Server 2012 จะรองรับการคลัสเตอร์กว่า 63 โฮสต์และ 4,000 เวอร์ชวลแมชชีน โดยมีการปรับปรุงคุณลักษณะในการจัดการ, ความมีสเถียรภาพและการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในแง่ของการจัดการข้อมูลและสตอเรจ รวมไปถึงการเข้ารหัสและการเคลื่อนย้ายสตอเรจพร้อมกับรองรับ NIC (Network Interface Card) จากผู้ผลิตหลายราย และการกำหนดค่าสำหรับ  i/o ของการเชื่อมต่อผ่านไฟเบอร์สำหรับ  Hyper – V

      6. การเคลื่อนย้ายที่มีความยืดหยุ่นสูง: Windows Server 2012 จะมาพร้อมกับความสามารถในการเคลื่อนย้ายฮาร์ดดิสก์เสมือนหรือแฟ้มที่มีการ กำหนดค่าสำหรับเวอร์ชวลแมชชีน โดยไม่มีการหยุดชะงักของระบบ นอกจากนี้ Windows Server 2012 ยังสามารถจำลองการปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของเวอร์ชวลแมชชีนในการเปลี่ยนผู้ถือครองทรัพยากร ในกลุ่มคลัสเตอร์ด้วย

      7. การรองรับระบบเครือข่ายเสมือนขั้นสูง: หากคุณเคยมีปัญหากับการจัดการระบบเครือข่ายเสมือน Windows Server 2012 จะช่วยตอบโจทย์ทั้งในส่วนของการจัดการแบนด์วิดธ์ของระบบเครือข่ายเสมือน, QOS การรองรับโพรโตคอลมาตรฐานเปิดอย่าง OpenFlow เป็นต้น โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมราคาแพง โดยเป็นระบบการจัดการเสริมที่อยู่ใน Hyper-V นั่นเอง

      8. การทำสำเนา Hyper-V: หนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานระบบเสมือนต้องการมากที่สุดคือการกู้คืนระบบ ที่ทำได้ง่าย และใน Windows Server 2012 จะทำให้แนวทางนี้ทำได้สะดวกขึ้น โดยหลังจากที่เลือกดิสก์เสมือนและตำแหน่งที่จะทำซ้ำ สามารถเลือกรูปแบบ, ตั้งเวลาซิงค์หรือการเขียนสำเนาไปยังดิสก์แบบ Local และยังสามารถระบุการตั้งค่า IP ในกรณีการเปลี่ยนผู้ถือครองทรัพยากรในกลุ่มคลัสเตอร์ระหว่างการทำสำเนาอีก ด้วย

      9. แอพลิเคชันของเซิร์ฟเวอร์สำหรับ SMB: Windows Server 2012 สนับสนุนการทำงานของธุรกิจขนาดเล็กและสำนักงานสาขาให้สามารถรันเวอร์ ชวลแมชชีนของ Hyper-V และฐานข้อมูลของ SQL จากไฟล์เซิร์ฟเวอร์ทั่วไป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของระบบจัดเก็บข้อมูล อีกทั้งยังสามารถปกป้อง Hyper-V และดูแลภาระงานของ SQL ด้วยการสร้างกลุ่มคลัสเตอร์สำหรับไฟล์เซิร์ฟเวอร์บนโพรโตคอล SMB ซึ่งใช้งบประมาณต่ำและทำได้ง่าย

     10. ระบบโครงสร้างพื้นฐานของเดสก์ทอปเสมือน:  ความน่าสนใจอีกอย่างของ Windows Server 2012 คือการช่วยลดความซับซ้อนของการจัดการและค่าใช้จ่ายของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ของ
เดสก์ทอปเสมือนลง โดยการใช้งานในส่วนของ RemoteFX ไม่ต้องพึ่งพาหน่วยประมวลผลกราฟฟิกและช่วยลดแบนด์วิดธ์ลงได้ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับ Windows Server 2008 R2 ซึ่งสามารถการจัดการด้านใช้งานจากจุดเดียวครอบคลุมทุกรูปแบบของการจัดการใช้ งานระบบเดสก์ทอปเสมือน ขณะที่ในส่วนฟอร์แมตของไฟล์สำหรับฮาร์ดดิสก์เสมือนแบบใหม่ (vhdx) ซึ่งมีรูปแบบเดียวกับการแชร์ไฟล์บนระบบเสมือนบนไฟล์เซิร์ฟเวอร์ SMB ทางไมโครซอฟท์กล่าวว่ากำลังพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมในโอกาสต่อไป




ที่มา : http://www.microsoft.com/business
        http://arit.rmutsv.ac.th

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การปักหมุด ใน Google map

ดู Street View โดยวางหมุดใน Google map

  1. เปิดแอป Google Maps
  2. แตะแผนที่ค้างไว้เพื่อวางหมุด
  3. ดึงแผ่นข้อมูลขึ้น และแตะภาพที่มีข้อความว่า "Street View"

              วิธีการ
640574C583EDAAC2705FB484C04C5BD0F887


ถ้าคุณไม่เห็นภาพที่มีข้อความว่า "Street View" แสดงว่าไม่มีภาพ Street View
ในบริเวณนั้น เรียนรู้ว่าสถานที่ใดมีภาพ Street View
และเรากำลังขับรถเพื่อถ่ายภาพอยู่ในบริเวณใด  นำหมุดที่ปักไว้ออก
ถ้าต้องการนำหมุดที่ปักไว้ออก ให้แตะที่ใดก็ได้บนแผนที่
ที่มา : support.google.com

การติดตั้ง Pfsense

ขั้นตอนการติดตั้ง Pfsense
1. Boot เครื่องด้วย CD pfSense
->  เลือก 1.  Boot pfSense (default)




2. ระบบแจ้งว่าต้องการตั้งค่า VLANs หรือไม่ ในที่นี้เรา  ไม่ใช้ VLAN   
-> ให้ตอบ   n





3. ระบบจะให้เลือก LAN  Interface ในที่นี้
-> เลือก em0




4. ระบบจะให้เลือกWAN Interface ในที่นี้
-> เลือก em1




5. สำหรับการทดสอบนี้จะใช้ LAN CARD 2 ใบ (ใช้ทำ LAN, WAN)
เท่านั้น
-> Enter ผ่านไป


6. เลือก y เพื่อ ยันยันการติดตั้ง


7. เข้าสู่เมนูการติดตั้ง pfSense ให้เลือกการติดตั้งลง Hard drive 
->  กด  99   enter


8. เลือกค่าการติดตั้งทั้งหมด เป็น Default และเลือก Accept the Settings


9. เลือกการติดตั้งแบบ  Quick/Easy Install


10. ระบบจะเริ่มติดตั้งแบบ Easy Install  เลือก OK
11. ระบบกำลังติดตั้ง Packet  ลงบน Hard drive

12. ในที่นี้เลือกUniprocessor kernel (one processor)
13. ระบบทำการติดตั้งเรียบร้อย ให้ Reboot

14. ระบบพร้อมใช้งานแล้ว สามารถปรับแต่งค่า Config ได้ที่   http://192.168.1.1 
User: admin
Password : pfsense

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ระวัง! 6 โปรแกรมอันตราย


ระวัง! 6 โปรแกรมอันตราย ที่ไม่ควรติดตั้ง
หลายคนเจอปัญหามามายที่เกิด จาก โปรแกรมของ Baidu ได้แก่ !!!!!!!!!!!!!

Baidu Anti Virus   สแกนได้จริงมาก บอกว่า โปรแกรมฆ่าไวรัส ตัวอื่นเป็นไวรัสซะงั้น แต่ตัวเขาเอง เป็น กึ่ง มัลแวร์เอง 
******************************************************************
Hao123 เป็น Toolbar หรือ เป็น ค่าเริ่มต้นของการเปิดอินเตอร์เนต จะเป็นหน้าแรกเสมอ เพื่อการโฆษณา และเป็นตัววุ่นวายหน้าเวป
ทำลิงค์ต่าง ๆ ไปยังหน้าเวปเพจต่าง ซึ่งไม่ทราบได้เลยว่า แอบ เก็บรหัส ผ่านไว้บ้างหรือเปล่า
*****************************************************************
Baidu PC Faster ตัวนี้จัดการเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ระบบสื่อสารต่าง ๆ แก้ไขระบบของเราให้เข้ากับระบบของเขา  ใช้ไปสักพัก เครื่องจะช้า และอืด
******************************************************************
Spark browser ตัวนี้ อันตรายมาก ๆ เพราะถ้าคุณ อ่านอีเมล์ เล่นเนต ทำธุรกรรมทางการเงิน เล่น เฟสบุค ต่างๆ เขาแอบเก็บ พาสเวิร์ดของเรา ด้วยหรือเปล่า ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาดูว่าที่พูดไป มีอะไรที่น่าสงสัยบ้าง
อ่าน ฉบับเต็ม ได้ที่นี่
http://www.pcfaster.com/th/EULA.php?link=11&langid=1054
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^








ที่มา : pantip.com

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีเลือก Power Bank

วิธีเลือก Power Bank
แบตฯ สำรองหรือ Power Bank คืออุปกรณ์ที่ไว้จ่ายไฟให้กับ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ ผ่านทางพอร์ต USB เพื่อความสะดวก Power Bank
จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ จากนั้นเมื่อใช้งาน มันจะจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณนำมาเชื่อมต่อ เหมือนกับกำลังเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ หรือเสียบสายชาร์จเข้ากับ USB ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
1. Choose your Power Bank: Power Bank ซื้อดีมั๊ย?
002

ถ้าลองไปเดินตามท้องตลาดที่ขายอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ จะเห็นว่าสินค้า Power Bank นั้นมีขายกัน เกลื่อน ซึ่งมีอยู่หลายระดับราคา หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเรียบๆ แบบลายการ์ตูน แบบมีสีสันมากมาย หรือ ถ้ามองในเรื่องของขนาดตัว Power Bank เองก็มีอยู่ หลายขนาดเช่นกัน หากใครกำลังเจอกับปัญหาสมาร์ตโฟนมีความ ตะกละมากเกินเหตุ ทำให้แบตฯ หมดอย่างรวดเร็ว และกำลังมองหา Power Bank อยู่ เชื่อได้เลยว่าจะต้องสับสน ไม่รู้ว่าจะเลือก Power Bank แบบไหน รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี คำตอบอยู่ที่คุณจะต้องถามความต้องการของ ตัวคุณเองก่อนว่าต้องการ Power Bank มาเพื่ออะไรหากเอกสารสำคัญ ข้อมูลสำคัญ ธุรกรรมการเงินทั้งหลายแหล่ของคุณถูกบรรจุเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน และจำเป็นต้องทำงานบางส่วนในสมาร์ทโฟนบ่อยๆ การมีแบตฯ สำรองไว้ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง
2. Capacities: จุไฟเท่าไหร่ดี?
Power Bank นั้นก็เป็นแบตฯ ชนิดหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าตัวแบตฯ ไม่ว่าจะเป็นแบตฯ ใน อุปกรณ์ไหนๆ จะต้องมีค่าความจุ ซึ่งบอกถึง ปริมาณไฟฟ้าที่มันสามารถกักเก็บไว้ให้เราพกพา ไปใช้งานที่อื่นๆ ได้นั่นเอง Power Bank ที่ขายอยู่ในท้องตลาดเองก็มีหลายรุ่นหลายขนาด และหลายความจุ โดยความจุไฟฟ้านั้นจะนับหน่วยเป็น mAh (อ่านว่า มิลลิแอมป์อาวเออร์) โดยค่าความจุนี้จะถูกระบุ อยู่ในสเปกของตัว Power Bank การเลือกดูความจุของ Power Bank นั้นสามารถคำนวณได้ง่ายๆ เช่น สมาร์ตโฟนที่ใช้งานอาจจะมีแบตฯ ขนาด 2000mAh โดยที่การใช้งานใน แบบของคุณอาจจะใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง
3. The prices: ราคาต่างกันนิดเดียว ซื้อความจุสูงๆ ไปเลยดีกว่าไหม?
price tag with copy space
หากไปเดินงาน Commart ล่าสุดที่ผ่านมา จะเห็นว่าโปรโมชั่นของ Power Bank นั้น ลดกระหน่ำกันแบบสุดๆ คุณสามารถหาซื้อ Power Bank ความจุระดับ 10000+mAh ได้ในราคาไม่ถึงพันบาท ในขณะที่รุ่นเล็กความจุประมาณ 2200mAh กลับมีราคาปาเข้าไป 4-5 ร้อยบาทแล้ว ดูยังไงรุ่นที่มีความจุสูงกว่าก็ต้องคุ้มกว่าแน่นอน ข้อดีของ Power Bank รุ่นที่มีความจุสูงก็คือสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้หลายตัว หรือถ้ามีสมาร์ตโฟนแค่ตัวเดียว ก็สามารถชาร์จได้หลายครั้ง โดยที่ไม่ต้องชาร์จ Power Bank ทุกวัน หรือสามารถแบ่งเพื่อนให้ชาร์จด้วยกันก็ได้ ส่วนข้อเสียคือ ความจุที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ขนาดและน้ำหนักของ Power Bank มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็แล้วแต่การออกแบบของผู้ผลิต แค่ถ้าหากมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ออกแบบให้พกพาได้สะดวกก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
4. Choosing: เลือกที่ความจุอย่างเดียวจะพอรึเปล่า?
004
ถ้าจะพูดถึงปัจจัยอีกตัวหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ ปริมาณกระแสไฟ ซึ่งจะแทนที่หน่วยด้วยตัวอักษร A (อ่านว่า แอมป์) ซึ่งหมายถึงปริมาณไฟฟ้าที่ อุปกรณ์จำเป็นต้องใช้เพื่อการทำงานในช่วงที่อุปกรณ์เปิดอยู่ ซึ่งในที่นี้หมายถึงระบบชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ ในแง่ของ Power Bank ก็เช่นกัน หาก Power Bank ไม่มีความสามารถในการจ่ายพลังงานให้ได้ปริมาณกระแสตามที่อุปกรณ์นั้นๆต้องการ ก็จะไม่สามารถชาร์จอุปกรณ์ตัวนั้นได้หรืออาจจะชาร์จช้ามากจนแทบไมเห็นว่ามีการชาร์จ อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อย่างสมาร์ตโฟน มีเดียเพลเยอร์แบบพกพาจะกินกระแสไฟ อยู่ที่ประมาณ 0.5-1A ในขณะที่อุปกรณ์พวกแท็บเล็ตจะกินกระแสไฟอยู่ราวๆ 1-2.1A แต่ทั้งนี้ ต้องไปดูที่อุปกรณ์ด้วยว่ากินกระแสไฟเท่าไหร่ แล้วเลือก Power Bank ที่จ่ายกระแสไฟเท่าๆกับอุปกรณ์ตัวนั้นๆ
5. Over Power distribution: จ่ายไฟแรงเกิน เครื่องจะพังมั๊ย?
นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนกังวลกัน อย่างที่ บอกไว้ในข้างต้นว่าการเลือกซื้อ Power Bank นั้นต้อง ดูที่ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟของ Power Bank ด้วยว่ามีเพียงพอต่อการชาร์จอุปกรณ์ของคุณหรือไม่ ในกรณีที่ Power Bank
จ่ายกระแสไฟให้ เกินที่ตัวอุปกรณ์ต้องการ เช่น Power Bank รุ่นใหญ่ ที่สามารถชาร์จ iPad ได้ จะมีการระบุว่าสามารถจ่าย กระแสไฟได้มากถึง 2.1A หากเรานำมาชาร์จโทรศัพท์ มือถือที่ต้องการเพียงแค่ 0.75A
หลายๆ คนกังวลว่า อุปกรณ์จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า คำตอบคือ สามารถชาร์จได้ไม่มีปัญหา และในหลายๆกรณีมันทำให้สามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้นด้วย
6. Power Bank battery type: แบตชนิดไหนเป็นยังไง
006
เป็นแบตฯ ที่ใช้เก็บ พลังงานสำรอง ซึ่งถ้าพูดง่ายๆ มันก็เหมือนกับถ่านชาร์จที่เราใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ หรือถ่าน ชาร์จ จะเห็นว่ามีการแบ่งชนิดหรือเทคโนโลยีกันออก ไป เช่นแบตฯ ชนิดที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะเป็น Li-Ion (ลิเธียม ไอออน) หรือแบตฯ รุ่นเก่าที่มีราคาถูกหน่อย ก็คือ Ni-MH (นิกเกิล เมทัลไฮดราย) มีเพียงแค่ 2 ชนิด ที่ผู้ผลิต Power Bank นิยมนำมาใช้กัน ชนิดแรกคือ Ni-HM ชนิดนี้ราคาค่อนข้างถูก แต่พอมาทำเป็น Power Bank แล้วก็ไม่ได้ถูกมากนัก โดยแบตฯ ชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่มาก ยิ่งเป็นรุ่นที่มีความจุพลังงานสูงๆ จะยิ่งหนักขึ้น อย่างเห็นได้ชัด แบตฯชนิดนี้ เวลาใช้งานควรจะต้องใช้ให้แบตฯ หมด เกลี้ยงแล้วจึงชาร์จ จะทำให้แบตฯ เสื่อมช้าลง แบตฯ อีกชนิดที่นิยมกันมากคือ Li- Ion ซึ่งเป็นแบตฯ รุ่นใหม่มีความเบา และที่สำคัญ คือสามารถชาร์จได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้หมดก่อน และจริงๆ แล้วไม่ควรปล่อยให้มันหมดด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นแบตฯ จะเสื่อมเร็วขึ้น แบตฯ ชนิด Li-Ion มีดีที่น้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่แพงขึ้น
7. Port connectors: มีหัวชาร์จแบบไหนบ้าง?
008
ส่วนมากมักจะออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ USB ในแง่ของแรงดันไฟ และกระแสไฟ แต่เนื่องจากอุปกรณ์ที่สามารถชาร์จผ่านพอร์ต USB นั้นมีหลากหลายมาก และแต่ละชนิดก็มีหัวต่อที่หลากหลายเช่นกัน กำรออกแบบ Power Bank จึงมี หลากหลายตามไปด้วย ประเภทแรกนั้นเป็น Power Bank ที่มีหัวตายตัว คือไม่มีพอร์ต USB แต่จะเป็นหัวต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะ เช่น Power Bank สำหรับ iPhone ที่ต่อเข้ากับตัวเครื่องได้ทันที หรือออกแบบมาเป็นเคสสวมกับiPhone ซึ่ง แปลว่าใช้งานได้กับ iPhone เท่านั้น ประเภทที่มีพอร์ต USB มาให้พร้อมสายและหัวต่อแยกต่างหากทำให้สามารถชาร์จกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย โดยสายพ่วงที่มีหัวมาให้หลายๆ ชนิดนั้นเป็นเพียงสายที่ช่วย อำนวยความสะดวกเฉยๆ เพราะหากคุณมีสายชาร์จหรือ Data Link ของตัวเครื่องอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้งานได้เลย
8. What’s the best?: ยี่ห้อมาจากโซนไหนดีสุด?
009
อย่างที่บอกว่า Power Bank เป็นที่นิยมกันมาก ทำให้ ปัจจุบันมีผู้ผลิต Power Bank ออกมาจำหน่ายมากมาย ทั้งคุ้นชื่อบ้าง ไม่คุ้นชื่อบ้าง ถ้าให้ไล่วิจารณ์ทีละยี่ห้อคงจะยาวเกินไป เอาเป็นว่าแบ่ง Power Bank ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1. ยี่ห้อจากญี่ปุ่น ระดับความน่าเชื่อถือถือว่าดีที่สุด ทั้งตัวอุปกรณ์ที่วัสดุดูดี น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับความจุ และ น่าจะมีระบบ QC ที่ดีกว่า แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงที่สุดเช่นกัน 2. ยี่ห้อจากไต้หวัน เท่าที่เห็นมีเพียง 1 หรือ 2 ยี่ห้อเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจคือ ยี่ห้อนี้เขียนที่หน้ากล่องว่า ใช้ Battery ของญี่ปุ่น และยังออกแบบให้มีพอร์ต 2 ช่อง ที่จ่ายไฟได้สูงถึง 1.2 A และ 2.1 A เลยทีเดียว 3. ยี่ห้อจากจีน ถือเป็นยี่ห้อที่มีรูปแบบและความจุให้เลือกมากที่สุด รวมไปถึงราคาที่ถูกกว่าอีก 2 ยี่ห้ออย่างเห็นได้ชัด แต่ขนาดและน้ำหนักยังทำได้ไม่ดี รวมไปถึงความน่า เชื่อถือของระบบ QC ที่ด้อยกว่ามาก
10. Alternative choice: ทางเลือกอื่นก็มีนะ
010
สำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนแล้ว Power Bank กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นขึ้นมาทันที โดยเฉพาะกับคนที่ติดโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กทุกลมหายใจ และแบตฯ ชอบหมดไปก่อนกำหนด แต่คำถามคือถ้ารู้สึกว่า Power Bank ยังไม่ตอบโจทย์ หรือแพงเกินกว่าจะซื้อ จะมีทางเลือกอะไรอย่างอื่นไหม? คำตอบคือ “มี” เพียงแค่คุณจะสนใจหรือเปล่า เท่านั้นเอง อย่างเช่น รังถ่าน ชาร์จมือถือ ไอเดียเก๋ตั้งแต่ยุคที่ Power Bank ไม่เป็นที่นิยม โดยเจ้ารังถ่านนี้จะมีแผงวงจรที่แปลง กระแสไฟจากถ่าน AA หลายๆ ก่อนที่ใส่ไว้ ไปเป็นไฟ 5V เพื่อชาร์จกับอุปกรณ์ที่คุณต้องใช้
 

ที่มา ARIP.COM

























วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เลข Port หลัก ๆ ที่ควรรู้

เลข Port หลักๆที่ควรรู้

เพื่อความสะดวกของผู้อ่าน ผมได้รวบรวมเลข Port ที่ควรรู้มาให้ส่วนหนึ่งครับ
พอร์ทหลัก ๆ ที่เกี่ยวกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต (พอร์ทพวกนี้ เป็นพอร์ทหลักเลยที่เราจะพิจารณาเปิด/ปิด)
20   FTP (Data)
21   FTP (Command)
22   SSH
23   Telnet
25   SMTP
53   DNS
67   DHCP Server
68   DHCP Client
80   HTTP
115   SFTP
123   NTP
143   IMAP
194   IRC
220   IMAP(V3)
443   HTTPS
465   SMTP SSL
520   RIP
989   FTPS (Data)
990   FTPS (Command)
993   IMAPS
995   POP3S
1194   OpenVPN
1812   RADIUS-Auth
1813   RADIUS-Account
3128   Web caches
8080   Proxy



พอร์ทอื่นๆที่ควรรู้จัก(ในฐานะคนดูแลระบบ)
843   Adobe Flash
5228   Android Market (ถ้ามีคนใช้ Android)
2210   MikroTik Remote

พอร์ทที่เกียวกับ Webhosting - Control panel (คนทำเว็บอาจต้องใช้)
2082   cPanel
2083   cPanel-SSL
2095   cPanel-webmail
2096   cpanel-Webmail-SSL
2222   DirectAdmin
7777   Kloxo SSL
7778   Kloxo

พอร์ทพวกสังคมออนไลน์ (อาจไม่แน่ไม่นอน)
1863   aMSN / MSNเก่า / Windows Live IM และ .NET Messenger Service
4000   QQ
5050   Yahoo IM
5190   ICQ / AOL IM
6891-6901   Windows Live (Files & Voice)
8631   aMSN กล้อง
19294-19295   Google Talk Voice
19302   Google Talk Voice
23399   Skype ปกติ