แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Android แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Android แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ยอดการใช้ Android KitKat เพิ่มขึ้นเป็น 30.2% ส่วน Jelly Bean ยังลดลงต่อเนื่อง

Android KitKat
แม้ส่วนแบ่งทางการตลาดของมือถือ Android ทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 3 จะลดลงจากไตรมาส 2 เพียง 1% จาก 85% มาอยู่ที่ 84% แต่ในทางกลับกันยอดการใช้งาน Android KitKat ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

android-kitkat


รายงานตัวเลขล่าสุดของระบบปฏิบัติการ Android KitKat จากการสำรวจภายในระยะเวลา 7 วัน สิ้นสุด ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน เผยให้เห็นว่ามีสัด ส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 30.2% จากอุปกรณ์ที่เข้าถึง Play Store ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันสัดส่วนของ Jelly Bean ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ครองส่วนแบ่งอยู่เป็นส่วนใหญ่ โดย ณ เวลานี้มีสัดส่วนอยู่ที่ 50.1% แต่นับว่ามียอดการใช้ลดลงต่อเนื่อง

ส่วนของ Android Ice Cream Sandwich มียอดการใช้ขณะนี้อยู่ที่ 8.5%, Gingerbread ยังมีอยู่ถึง 9.8%
ทั้งนี้การอัพเดทระบบปฏิบัติการให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ให้ได้ใช้ KitKat ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายแบรนด์ รวมถึง Google ต่างร่วมมือกันพยายามที่จะลดระยะเวลาในการปล่อยซอฟต์แวร์อัพเดทให้น้อยลงที่สุด เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานที่มีอยู่จำนวนมาก โดยที่ผ่านมาผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ต่างรอคอยกันนานหลายเดือนกว่าจะได้รับการอัพเดทมาใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ

ที่มา 9to5google,ARIP

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การปักหมุด ใน Google map

ดู Street View โดยวางหมุดใน Google map

  1. เปิดแอป Google Maps
  2. แตะแผนที่ค้างไว้เพื่อวางหมุด
  3. ดึงแผ่นข้อมูลขึ้น และแตะภาพที่มีข้อความว่า "Street View"

              วิธีการ
640574C583EDAAC2705FB484C04C5BD0F887


ถ้าคุณไม่เห็นภาพที่มีข้อความว่า "Street View" แสดงว่าไม่มีภาพ Street View
ในบริเวณนั้น เรียนรู้ว่าสถานที่ใดมีภาพ Street View
และเรากำลังขับรถเพื่อถ่ายภาพอยู่ในบริเวณใด  นำหมุดที่ปักไว้ออก
ถ้าต้องการนำหมุดที่ปักไว้ออก ให้แตะที่ใดก็ได้บนแผนที่
ที่มา : support.google.com

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ระวัง! 6 โปรแกรมอันตราย


ระวัง! 6 โปรแกรมอันตราย ที่ไม่ควรติดตั้ง
หลายคนเจอปัญหามามายที่เกิด จาก โปรแกรมของ Baidu ได้แก่ !!!!!!!!!!!!!

Baidu Anti Virus   สแกนได้จริงมาก บอกว่า โปรแกรมฆ่าไวรัส ตัวอื่นเป็นไวรัสซะงั้น แต่ตัวเขาเอง เป็น กึ่ง มัลแวร์เอง 
******************************************************************
Hao123 เป็น Toolbar หรือ เป็น ค่าเริ่มต้นของการเปิดอินเตอร์เนต จะเป็นหน้าแรกเสมอ เพื่อการโฆษณา และเป็นตัววุ่นวายหน้าเวป
ทำลิงค์ต่าง ๆ ไปยังหน้าเวปเพจต่าง ซึ่งไม่ทราบได้เลยว่า แอบ เก็บรหัส ผ่านไว้บ้างหรือเปล่า
*****************************************************************
Baidu PC Faster ตัวนี้จัดการเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ระบบสื่อสารต่าง ๆ แก้ไขระบบของเราให้เข้ากับระบบของเขา  ใช้ไปสักพัก เครื่องจะช้า และอืด
******************************************************************
Spark browser ตัวนี้ อันตรายมาก ๆ เพราะถ้าคุณ อ่านอีเมล์ เล่นเนต ทำธุรกรรมทางการเงิน เล่น เฟสบุค ต่างๆ เขาแอบเก็บ พาสเวิร์ดของเรา ด้วยหรือเปล่า ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาดูว่าที่พูดไป มีอะไรที่น่าสงสัยบ้าง
อ่าน ฉบับเต็ม ได้ที่นี่
http://www.pcfaster.com/th/EULA.php?link=11&langid=1054
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^








ที่มา : pantip.com

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีเลือก Power Bank

วิธีเลือก Power Bank
แบตฯ สำรองหรือ Power Bank คืออุปกรณ์ที่ไว้จ่ายไฟให้กับ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ ผ่านทางพอร์ต USB เพื่อความสะดวก Power Bank
จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ จากนั้นเมื่อใช้งาน มันจะจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณนำมาเชื่อมต่อ เหมือนกับกำลังเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ หรือเสียบสายชาร์จเข้ากับ USB ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
1. Choose your Power Bank: Power Bank ซื้อดีมั๊ย?
002

ถ้าลองไปเดินตามท้องตลาดที่ขายอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ จะเห็นว่าสินค้า Power Bank นั้นมีขายกัน เกลื่อน ซึ่งมีอยู่หลายระดับราคา หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเรียบๆ แบบลายการ์ตูน แบบมีสีสันมากมาย หรือ ถ้ามองในเรื่องของขนาดตัว Power Bank เองก็มีอยู่ หลายขนาดเช่นกัน หากใครกำลังเจอกับปัญหาสมาร์ตโฟนมีความ ตะกละมากเกินเหตุ ทำให้แบตฯ หมดอย่างรวดเร็ว และกำลังมองหา Power Bank อยู่ เชื่อได้เลยว่าจะต้องสับสน ไม่รู้ว่าจะเลือก Power Bank แบบไหน รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี คำตอบอยู่ที่คุณจะต้องถามความต้องการของ ตัวคุณเองก่อนว่าต้องการ Power Bank มาเพื่ออะไรหากเอกสารสำคัญ ข้อมูลสำคัญ ธุรกรรมการเงินทั้งหลายแหล่ของคุณถูกบรรจุเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน และจำเป็นต้องทำงานบางส่วนในสมาร์ทโฟนบ่อยๆ การมีแบตฯ สำรองไว้ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง
2. Capacities: จุไฟเท่าไหร่ดี?
Power Bank นั้นก็เป็นแบตฯ ชนิดหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าตัวแบตฯ ไม่ว่าจะเป็นแบตฯ ใน อุปกรณ์ไหนๆ จะต้องมีค่าความจุ ซึ่งบอกถึง ปริมาณไฟฟ้าที่มันสามารถกักเก็บไว้ให้เราพกพา ไปใช้งานที่อื่นๆ ได้นั่นเอง Power Bank ที่ขายอยู่ในท้องตลาดเองก็มีหลายรุ่นหลายขนาด และหลายความจุ โดยความจุไฟฟ้านั้นจะนับหน่วยเป็น mAh (อ่านว่า มิลลิแอมป์อาวเออร์) โดยค่าความจุนี้จะถูกระบุ อยู่ในสเปกของตัว Power Bank การเลือกดูความจุของ Power Bank นั้นสามารถคำนวณได้ง่ายๆ เช่น สมาร์ตโฟนที่ใช้งานอาจจะมีแบตฯ ขนาด 2000mAh โดยที่การใช้งานใน แบบของคุณอาจจะใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง
3. The prices: ราคาต่างกันนิดเดียว ซื้อความจุสูงๆ ไปเลยดีกว่าไหม?
price tag with copy space
หากไปเดินงาน Commart ล่าสุดที่ผ่านมา จะเห็นว่าโปรโมชั่นของ Power Bank นั้น ลดกระหน่ำกันแบบสุดๆ คุณสามารถหาซื้อ Power Bank ความจุระดับ 10000+mAh ได้ในราคาไม่ถึงพันบาท ในขณะที่รุ่นเล็กความจุประมาณ 2200mAh กลับมีราคาปาเข้าไป 4-5 ร้อยบาทแล้ว ดูยังไงรุ่นที่มีความจุสูงกว่าก็ต้องคุ้มกว่าแน่นอน ข้อดีของ Power Bank รุ่นที่มีความจุสูงก็คือสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้หลายตัว หรือถ้ามีสมาร์ตโฟนแค่ตัวเดียว ก็สามารถชาร์จได้หลายครั้ง โดยที่ไม่ต้องชาร์จ Power Bank ทุกวัน หรือสามารถแบ่งเพื่อนให้ชาร์จด้วยกันก็ได้ ส่วนข้อเสียคือ ความจุที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ขนาดและน้ำหนักของ Power Bank มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็แล้วแต่การออกแบบของผู้ผลิต แค่ถ้าหากมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ออกแบบให้พกพาได้สะดวกก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
4. Choosing: เลือกที่ความจุอย่างเดียวจะพอรึเปล่า?
004
ถ้าจะพูดถึงปัจจัยอีกตัวหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ ปริมาณกระแสไฟ ซึ่งจะแทนที่หน่วยด้วยตัวอักษร A (อ่านว่า แอมป์) ซึ่งหมายถึงปริมาณไฟฟ้าที่ อุปกรณ์จำเป็นต้องใช้เพื่อการทำงานในช่วงที่อุปกรณ์เปิดอยู่ ซึ่งในที่นี้หมายถึงระบบชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ ในแง่ของ Power Bank ก็เช่นกัน หาก Power Bank ไม่มีความสามารถในการจ่ายพลังงานให้ได้ปริมาณกระแสตามที่อุปกรณ์นั้นๆต้องการ ก็จะไม่สามารถชาร์จอุปกรณ์ตัวนั้นได้หรืออาจจะชาร์จช้ามากจนแทบไมเห็นว่ามีการชาร์จ อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อย่างสมาร์ตโฟน มีเดียเพลเยอร์แบบพกพาจะกินกระแสไฟ อยู่ที่ประมาณ 0.5-1A ในขณะที่อุปกรณ์พวกแท็บเล็ตจะกินกระแสไฟอยู่ราวๆ 1-2.1A แต่ทั้งนี้ ต้องไปดูที่อุปกรณ์ด้วยว่ากินกระแสไฟเท่าไหร่ แล้วเลือก Power Bank ที่จ่ายกระแสไฟเท่าๆกับอุปกรณ์ตัวนั้นๆ
5. Over Power distribution: จ่ายไฟแรงเกิน เครื่องจะพังมั๊ย?
นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนกังวลกัน อย่างที่ บอกไว้ในข้างต้นว่าการเลือกซื้อ Power Bank นั้นต้อง ดูที่ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟของ Power Bank ด้วยว่ามีเพียงพอต่อการชาร์จอุปกรณ์ของคุณหรือไม่ ในกรณีที่ Power Bank
จ่ายกระแสไฟให้ เกินที่ตัวอุปกรณ์ต้องการ เช่น Power Bank รุ่นใหญ่ ที่สามารถชาร์จ iPad ได้ จะมีการระบุว่าสามารถจ่าย กระแสไฟได้มากถึง 2.1A หากเรานำมาชาร์จโทรศัพท์ มือถือที่ต้องการเพียงแค่ 0.75A
หลายๆ คนกังวลว่า อุปกรณ์จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า คำตอบคือ สามารถชาร์จได้ไม่มีปัญหา และในหลายๆกรณีมันทำให้สามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้นด้วย
6. Power Bank battery type: แบตชนิดไหนเป็นยังไง
006
เป็นแบตฯ ที่ใช้เก็บ พลังงานสำรอง ซึ่งถ้าพูดง่ายๆ มันก็เหมือนกับถ่านชาร์จที่เราใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ หรือถ่าน ชาร์จ จะเห็นว่ามีการแบ่งชนิดหรือเทคโนโลยีกันออก ไป เช่นแบตฯ ชนิดที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะเป็น Li-Ion (ลิเธียม ไอออน) หรือแบตฯ รุ่นเก่าที่มีราคาถูกหน่อย ก็คือ Ni-MH (นิกเกิล เมทัลไฮดราย) มีเพียงแค่ 2 ชนิด ที่ผู้ผลิต Power Bank นิยมนำมาใช้กัน ชนิดแรกคือ Ni-HM ชนิดนี้ราคาค่อนข้างถูก แต่พอมาทำเป็น Power Bank แล้วก็ไม่ได้ถูกมากนัก โดยแบตฯ ชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่มาก ยิ่งเป็นรุ่นที่มีความจุพลังงานสูงๆ จะยิ่งหนักขึ้น อย่างเห็นได้ชัด แบตฯชนิดนี้ เวลาใช้งานควรจะต้องใช้ให้แบตฯ หมด เกลี้ยงแล้วจึงชาร์จ จะทำให้แบตฯ เสื่อมช้าลง แบตฯ อีกชนิดที่นิยมกันมากคือ Li- Ion ซึ่งเป็นแบตฯ รุ่นใหม่มีความเบา และที่สำคัญ คือสามารถชาร์จได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้หมดก่อน และจริงๆ แล้วไม่ควรปล่อยให้มันหมดด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นแบตฯ จะเสื่อมเร็วขึ้น แบตฯ ชนิด Li-Ion มีดีที่น้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่แพงขึ้น
7. Port connectors: มีหัวชาร์จแบบไหนบ้าง?
008
ส่วนมากมักจะออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ USB ในแง่ของแรงดันไฟ และกระแสไฟ แต่เนื่องจากอุปกรณ์ที่สามารถชาร์จผ่านพอร์ต USB นั้นมีหลากหลายมาก และแต่ละชนิดก็มีหัวต่อที่หลากหลายเช่นกัน กำรออกแบบ Power Bank จึงมี หลากหลายตามไปด้วย ประเภทแรกนั้นเป็น Power Bank ที่มีหัวตายตัว คือไม่มีพอร์ต USB แต่จะเป็นหัวต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะ เช่น Power Bank สำหรับ iPhone ที่ต่อเข้ากับตัวเครื่องได้ทันที หรือออกแบบมาเป็นเคสสวมกับiPhone ซึ่ง แปลว่าใช้งานได้กับ iPhone เท่านั้น ประเภทที่มีพอร์ต USB มาให้พร้อมสายและหัวต่อแยกต่างหากทำให้สามารถชาร์จกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย โดยสายพ่วงที่มีหัวมาให้หลายๆ ชนิดนั้นเป็นเพียงสายที่ช่วย อำนวยความสะดวกเฉยๆ เพราะหากคุณมีสายชาร์จหรือ Data Link ของตัวเครื่องอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้งานได้เลย
8. What’s the best?: ยี่ห้อมาจากโซนไหนดีสุด?
009
อย่างที่บอกว่า Power Bank เป็นที่นิยมกันมาก ทำให้ ปัจจุบันมีผู้ผลิต Power Bank ออกมาจำหน่ายมากมาย ทั้งคุ้นชื่อบ้าง ไม่คุ้นชื่อบ้าง ถ้าให้ไล่วิจารณ์ทีละยี่ห้อคงจะยาวเกินไป เอาเป็นว่าแบ่ง Power Bank ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1. ยี่ห้อจากญี่ปุ่น ระดับความน่าเชื่อถือถือว่าดีที่สุด ทั้งตัวอุปกรณ์ที่วัสดุดูดี น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับความจุ และ น่าจะมีระบบ QC ที่ดีกว่า แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงที่สุดเช่นกัน 2. ยี่ห้อจากไต้หวัน เท่าที่เห็นมีเพียง 1 หรือ 2 ยี่ห้อเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจคือ ยี่ห้อนี้เขียนที่หน้ากล่องว่า ใช้ Battery ของญี่ปุ่น และยังออกแบบให้มีพอร์ต 2 ช่อง ที่จ่ายไฟได้สูงถึง 1.2 A และ 2.1 A เลยทีเดียว 3. ยี่ห้อจากจีน ถือเป็นยี่ห้อที่มีรูปแบบและความจุให้เลือกมากที่สุด รวมไปถึงราคาที่ถูกกว่าอีก 2 ยี่ห้ออย่างเห็นได้ชัด แต่ขนาดและน้ำหนักยังทำได้ไม่ดี รวมไปถึงความน่า เชื่อถือของระบบ QC ที่ด้อยกว่ามาก
10. Alternative choice: ทางเลือกอื่นก็มีนะ
010
สำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนแล้ว Power Bank กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นขึ้นมาทันที โดยเฉพาะกับคนที่ติดโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กทุกลมหายใจ และแบตฯ ชอบหมดไปก่อนกำหนด แต่คำถามคือถ้ารู้สึกว่า Power Bank ยังไม่ตอบโจทย์ หรือแพงเกินกว่าจะซื้อ จะมีทางเลือกอะไรอย่างอื่นไหม? คำตอบคือ “มี” เพียงแค่คุณจะสนใจหรือเปล่า เท่านั้นเอง อย่างเช่น รังถ่าน ชาร์จมือถือ ไอเดียเก๋ตั้งแต่ยุคที่ Power Bank ไม่เป็นที่นิยม โดยเจ้ารังถ่านนี้จะมีแผงวงจรที่แปลง กระแสไฟจากถ่าน AA หลายๆ ก่อนที่ใส่ไว้ ไปเป็นไฟ 5V เพื่อชาร์จกับอุปกรณ์ที่คุณต้องใช้
 

ที่มา ARIP.COM

























วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Gmail ล่าสุดสามารถ ใช้งานกับ E-mail นอกเหนือของตัวเองได้แล้ว

ใครที่ใช้ E-mail ของเจ้าอื่นที่ไม่ใช่ @Gmail ของ Google คงพบปัญหาว่าไม่สามารถใช้ Email บนแอพ ฯ Gmail ได้
แต่ล่าสุด Google ได้อัปเดตมาแก้ปัญหานี้แล้ว

gmail-5-pk-ss

Gmail รุ่นล่าสุดที่ออกมานี้ เป็นรุ่นที่ 5 แล้ว ซึ่งสิ่งสำคัญของรุ่นนี้คือ Google เปิดให้ใช้ Email จากเจ้าอื่นๆ ทั้งจาก Microsoft เช่น @hotmail, @outlook หรือจากทาง Yahoo รวมทั้ง Email ที่ให้บริการ IMAP หรือ Exchange ที่ใช้กันในองค์กร มาใช้งานผ่านแอพฯ Gmail ได้แล้วในเวอร์ชันนี้




โดยผู้ที่จะใช้ ก็แค่ทำการเพิ่มเมลเข้าไปในแอพฯ  ก็จะสามารถจัดการ Email ผ่านทางแอพฯ Gmail ได้แล้ว

อีกทั้งรุ่นนี้ ยังมีการเปลี่ยนหน้าตาไปเป็นแบบ Material Design แล้วด้วยตามแบบฉบับ แอพฯ ของ Google
โดยในตอนนี้ อัปเดตดังกล่าว ยังมีแค่ไฟล์ให้โหลดไปลงเองเท่านั้น คงต้องรอสักพัก อัปเดตดังกล่าวถึงจะออกมาให้อัปเดตได้ในเครื่อง ซึ่งยังไม่แน่ใจได้ว่า Android รุ่นใดที่จะได้ใช้แอพฯ ตัวนี้บ้าง
 
 
ที่มา Engadget,ARIP





วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เตือนภัย Internet Banking กับ “ZeuS”


โทรจัน ZeuS ภัยร้ายของ mobile banking

trojan
ที่สร้างความเสียหาย มากมายทั่วยุโรป  ตอนนี้กลับมาอีกแล้วค่ะ กับโทรจันตัวใหม่ในกลุ่ม internet banking
  เมื่อบริษัท CSIS ที่ซึ่งทำงานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางสารสนเทศได้เปิดเผยว่าพบมัลแวร์ในกลุ่ม  internet banking ตัวใหม่  ที่มีชื่อว่า “Dyreza” 



ซึ่งมันจะมุ่งโจมตีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้งในอเมริกาและแถบประเทศอังกฤษ เช่น Bank of America, Natwest, Citibank, RBS และ Ulster Bank

      ปีเตอร์ ครูซ นักวิจัยจาก CSIS บอกว่าโค้ดตัวนี้ถูกสร้างให้มีการทำงานเหมือนกับโทรจัน ZeuS 
มันจะเก็บข้อมูลจากเครื่องผู้ใช้อยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็ส่งไปให้แฮคเกอร์  โทรจันตัวนี้กำลังแพร่กระจายออกไปผ่านทางอีเมล์  เมื่อเรากดไฟล์แฝงมัลแวร์ที่มากับอีเมล์มันก็จะส่งสัญญาณกลับไปที่เครื่องของ hacker จากนั้นแฮคเกอร์ก็จะสามารถเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของเราได้

แม้มันจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับโทรจัน ZeuS แต่ Dyreza ก็จัดว่าเป็นโทรจันตัวใหม่ในกลุ่มอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง
     ครูซ เตือนว่า ให้ผู้ใช้ระวังพวกสแปมเมล์เพราะมันเป็นช่องทางแพร่กระจายของโทรจันโดยจะมาในรูปแบบ attachment file  ให้อัพเดทโปรแแกรม Flash Player เมื่อเรากดก็จะมันก็จะ install ลงบนเครื่องทันที



ที่มา : net-security.org,mindterra.com

พฤติกรรมการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์


ดาวน์โหลด
ไมโครซอฟท์ได้มีการสำรวจพฤติกรรมการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ของคนใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่าเกินกว่า 50% รู้สึกเป็นภาระจากการได้รับอีเมลและข้อมูลเครือข่ายสังคมออนไลน์มากเกินไป ไมโครซอฟท์จึงพยายามผสานระบบการทำงานของอีเมลหลายบัญชีเข้าด้วยกัน รวมทั้งคิดค้นวิธีการจัดการอีเมลรูปแบบใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มอีเมล เช่นที่มีรายชื่อผู้ส่งเดียวกัน หรือแบ่งแยกสแปมเมลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคจัดการกล่องอีเมลได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

       “เทคโนโลยีควรจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ใช่สร้างภาระให้เพิ่มมากขึ้น” ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

       จากการสำรวจของไมโครซอฟท์พบว่า ผู้ใช้งานฮอตเมลกว่า 60% เป็นกลุ่มผู้ใช้ที่มีอีเมลที่ไม่ได้เปิดอ่านจำนวนมาก และแต่ละบุคคลมีบัญชีอีเมลมากกว่า 3 บัญชี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุอีกว่า กว่า 93% จะได้รับอีเมลไม่พึงประสงค์ (Spam) ทุกวัน และมากกว่า 1 ใน 5 ได้รับเกิน 10 ฉบับต่อวัน

       “เรารู้ว่าผู้คนทั่วไปไม่ได้จัดระเบียบอีเมลส่วนตัว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม
และเรารู้ว่าการจัดการกับเมลบ็อกซ์ที่เต็มจนแทบล้นนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อ แค่ไหน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้พัฒนาคุณสมบัติใหม่ในฮอตเมลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบอีเมลที่ไม่ ต้องการทิ้งไปได้ง่ายขึ้น เพื่อพวกเขาจะได้เอาเวลาไปสนใจอีเมลที่เกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญจริงๆ”
บริการวินโดวส์ไลฟ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้ใช้จัดการบล็อก ลบอีเมลไม่พึงประสงค์ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถผสานเครือข่ายสังคมเข้ามารวมไว้ใช้งานในหน้าต่างเดียว ไม่ต้องคอยเปิดเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์หลายหน้าพร้อมกัน
       ไมโครซอฟท์มองว่าการจัดการเครือข่ายสังคมออนไลน์จากผู้ให้บริการหลาย รายหมายถึงการใช้พลังงานทางสังคมออนไลน์ที่ไม่จำเป็น นับจากนี้ไป การรวบข้อมูลให้อยู่ในแหล่งเดียวน่าจะเป็นทิศทางที่ควรจะเป็น ซึ่งคุณสมบัติหลักที่ Windows Live Messenger นำเสนอคือการรวมเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง facebook, LinkedIn และ My Space ให้เชื่อมโยงกันได้

       ผู้ใช้งานอีเมลและเมสเซนเจอร์ในประเทศไทยยังมีอัตราการเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจพบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้เวลาการใช้งานเมสเซนเจอร์มากกว่า 800 นาทีใน 1 เดือน ขณะเดียวกัน เวลาที่ผู้บริโภคใช้กับเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการเติบโตด้านโฆษณาออนไลน์มากขึ้น
       นอกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ออนไลน์มากยิ่งขึ้นแล้ว กระแสการเติบโตของสมาร์ทโฟนในประเทศไทยยังช่วยให้มีการใช้งานอีเมลและเม สเซนเจอร์เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทางไมโครซอฟท์มองว่าการที่มีผู้ใช้บริการวินโดวส์ไลฟ์บนแพลตฟอร์มอื่น ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความนิยมการใช้งานวินโดวส์ไลฟ์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น


ที่มา : ข่าวไอทีล่าสุด

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Nokia เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Mobile

Nokia เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Mobile  เร็ว ๆ นี้
อัพเดทข่าวคราวของวงการไอที ไปกับทีมงาน Sanook! Hitech กันครับ!! วันนี้เราเรามีข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ดังอย่าง Nokia ไปเป็น Microsoft Mobile ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ ว่า Microsoft จะเปลี่ยนชื่อ Nokiaหลังจากที่ซื้อ Nokia ไปแล้วอย่างเป็นทางการ!



มีการเผยแพร่จดหมายของ Nokia ที่ส่งไปยังซัพพลายเออร์เรื่องการซื้อธุรกิจของ Microsoft ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะซื้อขายกันเสร็จภายในสิ้นปลายเดือนเมษายนนี้



ซึ่งการเข้าซื้อ Nokia โดยบริษัท Microsoft ครั้งนี้คือการซื้อที่ครอบคลุมไปถึงข้อตกลงต่างๆ ของ Nokia ต่อลูกค้า ซัพพลายเออร์ คู่ค้าต่างๆ จึงทำให้เงื่อนไขที่เกิดขึ้นระหว่าง Microsoft กับคู่ค้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม



โดยหลังจากที่ Microsoft ทำการซื้อ Nokia เสร็จสิ้นแล้ว Microsoft ถือเป็นบริษัทที่ถือหุ้นส่วนเยอะที่สุด
จึงทำให้Nokia นั้นกลายไปเป็นบริษัทลูกของ Microsoft และเปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Mobile แทน
แต่อย่างไรก็ตามซัพพลายเออร์ที่เคยสนับสนุน Nokia ในธุรกิจอื่นๆที่ไม่ไช่สมาร์ทโฟนก็ยังคงเป็นซัพพลายเออร์ในธุรกิจนั้นๆ ของ Nokia



ซึ่งทาง Nokia ยืนยันอีกว่าการซื้อขายธุรกิจด้านอุปกรณ์สื่อสารและบริการโดย Microsoft
นี้จะกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทลูก Microsoft

โดยใช้ชื่อว่า Microsoft Mobile เป็นบริษัทย่อยของ Microsoft ที่ลงทุนเอง ซึ่ง Microsoft จะเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าต่อไป และทำตามระบบเดิมของ Nokia ดังนั้นให้ลูกค้าของ Nokia ไว้วางใจได้ว่าข้อมูลของท่านจะยังอยู่




ที่มา : gsmarena, hitech.sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กระจกแซฟไฟร์

บริษัทผลิตชิ้นส่วนกระจกแซฟไฟร์ให้แอปเปิล ยื่นคำร้องขอคุ้มครองล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ

ข่าวใหญ่ในโลกไอที   ข่าวที่ GT Advanced Technologies ยื่นคำร้องขอคุ้มครองการล้มละลาย ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวขานเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ Apple เนื่องจากชิ้นส่วนกระจกแชฟไฟร์ทั้งหมดถูกผลิตจากโรงงานนี้ และหลังจากที่มีข่าวว่ายื่นขอคุ้มครองการล้มละลายไป ตอนนี้ตัวแทนฝั่ง Apple ก็ออกมาเคลื่อนไหวบ้างแล้ว

MacStroke.com 20130919 iphone6 review 0048 640x466 400x291 บริษัทผลิตชิ้นส่วนกระจกแซฟไฟร์ให้แอปเปิล ยื่นคำร้องขอคุ้มครองล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ

โดย Reuters ออกรายงานพิเศษหลังสัมภาษณ์กับตัวแทนของ Apple ว่า

ตอนนี้ทั้งบริษัทอยู่ในสภาวะที่
กำลัง “ช็อค” เนื่องจากว่าโรงงาน GT Advanced Technologies รับผิดชอบการผลิตชิ้นส่วนกระจก
แชฟไฟร์ทั้งหมดให้ Apple อีกทั้งตอนนี้ GT เองก็ยังติดตั้งอุปกรณ์ที่โรงงานของ Apple ในรัฐ Arizona
ยังไม่เสร็จดีอีกด้วย

ทั้งนี้ GT ได้ยื่นขอคุ้มครองการล้มละลายพร้อมทั้งขอความช่วยเหลือในการจัดผังองค์กรใหม่ ตามประมวลกฎหมายล้มละลาย สหรัฐอเมริกา หมวด 11 (Chapter 11) ไปเมื่อวันก่อน

โดยสาเหตุเป็นผลมาจากที่บริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเซ็นสัญญากับ Apple เพื่อดำเนินการผลิตกระจกแชฟไฟร์ไป ก็ไม่ได้สร้างผลกำไรให้บริษัท จนต้องยื่นคำร้องขอคุ้มครองการล้มละลาย และให้รัฐเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการตามเป้าหมายได้ต่อไป แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะต้องปิดกิจการลงไปด้วย
พูดง่าย ๆ คือ โรงงานนี้อาการร่อแร่แล้ว เลยขอให้รัฐมาวางแผน หาทางออกให้ จะได้ไม่เจ๊งนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หุ้นของ GT Advanced Technologies กลับดีดตัวขึ้นพักหนึ่ง หลังจาก Apple เปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ใช้ชิ้นส่วนหน้าจอกระจกเสริมแรงทางเคมี ไม่ใช่กระจกแซฟไฟร์ ซึ่งจากกรณีนี้ทำให้ GT ได้เงินสดเข้ามาเพิ่มอีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

หลังจากนี้ Apple และ GT Advanced Technologies จะแก้ไขปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นได้อย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดเลยละครับ




ที่มา : macstroke.com,Cult of Mac

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิธีตามหามือถือหาย Android


ใครที่ใช้สมาร์ทโฟน บางท่านก็กลัว หรือไม่ก็เคยทำมือถือหายไปแล้ว หรือไม่ก็ถูกขโมยไป จะตามหามือถือที่หายไปได้อย่างไร ? ซึ่งใครใช้ iPhone ก็จะรู้ว่ามีแอพ Find My iPhone  ไว้สำหรับตามหามือถือหายไปได้ แต่ถ้าสมาร์ทโฟน Android ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนมากหลายขนาดหลายไซด์ หลายยี่ห้อ จะใช้แอพอะไรในการค้นหา ซึ่งวันนี้จะมาดูการใช้แอพและเว็บไซต์ในการตามหามือถือ Android ที่หายไปกัน


android-device-manager-02

รู้หรือไม่? Android  ที่เราใช้ ก็สามารถตามหามือถือได้ เช่นเดียวกันกับ Find my iPhone ของ iPhone เลย เพียงแค่แน่นำต้องเปิด Location ไว้ เพื่อให้สามารถตามหามือถือบนพิกัดล่าสุดได้

เมื่อเกิดเหตุการณ์มือถือ Android หายไป  หรือเผลอลืมมือถือ Android ไว้ ต้องการตามหาว่าอยู่ที่ไหน ? ก็ หาคอมพิวเตอร์ หรือแท็ปเล็ต


เปิดเว็บไซต์  https://www.google.com/android/devicemanager
แล้ว sign in ด้วยบัญชี google account (บัญชี gmail) ที่คุณใช้กับมือถือเครื่องที่ต้องการตามหา


android-device-manager-01a


เมื่อ login แล้ว ก็จะเห็นแผนที่เลย ว่า มือถือที่ตามหา อยู่ตรงไหนในขณะนั้น  หรือครั้งสุดท้ายที่อุปกรณ์ของคุณอยู่ก่อนปิดเครื่อง แสดงไว้บนแผนที่
android-device-manager-04a 
ทั้งนี้สามารถสามารถกดปุ่ม Ring ให้มือถือส่งเสียงออกมา…


image


กด Lock แล้วตั้งรหัสผ่านใหม่ เพื่อล็อคเครื่องที่ตามหาอยู่ ไม่ให้คนอื่นเข้าใช้งานได้  จะเข้าได้ ต้องใส่รหัสใหม่ที่เราเพิ่งตั้งไว้ให้ถูกต้องเท่านั้น


android-device-manager-message-02a

นอกจากนี้ Android Device Manager ยังสามารถสามารถพิมพ์ข้อความลงในช่อง Recovery Message เพื่อให้ข้อความนั้นๆ ปรากฏบนหน้าจอมือถือของคุณ เมื่อมีคนพบ จะได้นำมาส่งคืนเจ้าของได้  ถ้าเค้าไม่ได้คิดขโมย  เช่นพิมพ์บอกว่า


 “หากเก็บได้ กรุณาส่งคืนที่ไหน ติดต่อใคร จะมีรางวัลให้”


android-device-manager-00


Android Device Manager สามารถใช้ตามหามือถือระบบปฏิบัติการ Android  ได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ   ใช้ได้ทั้งเว็บไซต์
และแอพพลิเคชั่น โดยแอพ Android Device Manager  ดาวน์โหลดฟรี บน Google Play และในกรณีมือถือ Android หาย สามารถใช้อุปกรณ์ iOS คุณมี เปิด safari เข้าเว็บไซต์  Android Device Manager (android.com/devicemanager) ผ่านทางเว็บบราวเซอร์บนมือถือ หรือแท็บเล็ตได้


android-device-manager-remote-lock-and-erase


ทั้งนี้คุณสามารถตั้งค่าให้มือถือของคุณรองรับการลบข้อมูลบนมือถือ Android ผ่านทาง คำสั่งระยะไกลได้ด้วย  เผื่อในกรณีมือถืออยู่ที่โจรขโมย แล้วมีข้อมูลสำคัญบนมือถือ คุณก็สามารถตัดสินใจสั่งให้มือถือลบข้อมูลทั้งหมด และทำการ Factory Reset ใหม่ ผ่านทาง Android Device Manager ได้  เพื่อไม่ให้ข้อมูลบนมือถือของคุณหลุดไป 

โดยตั้งค่ามือถือที่ 

Apps >> Google Settings >> เลือก Android Device Manager >> แล้วติ๊กถูกที่ Allow Remote Lock and Erase


android-device-manager-07a


ในกรณีมือถือหาย สามารถสั่งลบได้โดย  เข้า Android Device Manager ทางเว็บไซต์ หรือทางแอพบน Android  >> จากนั้น ทำการ sign in ด้วย google account แล้วเลือกมือถือที่หายไป แล้วคลิกที่ ลบ  >> ก็จะถามคุณว่าคุณต้องการลบจริงหรือไม่ ก็ตอบลบ เพื่อทำการสั่งมือถือที่หายไปนั้นทำการ ลบข้อมูลและ factory reset เริ่มต้นใหม่ ทั้งนี้มือถือที่หายจะดำเนินการลบเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้


ทั้งนี้ Android Device Manager ได้เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบเว็บไซต์ เมื่อเดือน  สิงหาคม 2013 ก่อนที่จะมาในรูปแบบ
แอปพลิเคชั่น และเพิ่มฟีเจอร์ส่งข้อความเตือนผู้ที่พบ Android และมีลุ้นว่า Google ยังพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ใหม่บน Android Device Manager อย่างต่อเนื่อง



android-device-manager-01







ที่มา : it24hrs.com